สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกคน เราชื่อ สเกว นะคะ เป็นพนักงานของ THiNKNET นี่แหละค่ะ ตอนนี้ทำงานในตำแหน่ง Sales & Customer Service Specialist ที่ต้องคอยติดต่อประสานงานกับลูกค้าของ JobThai ก่อนหน้านี้ตอนที่ยังทำงานอยู่ที่ออฟฟิศพอถึงเวลาเลิกงานสเกวกับเพื่อนก็จะพากันไปกินข้าวเย็นแล้วก็กลับบ้านไปนอนพักผ่อน แต่ละวันหมดแรงไปกับการเดินทางมาก ๆ ต้องเดิน… เดิน… เดิน... แล้วก็เดิน... รวมถึงขึ้นรถอีกตั้งหลายต่อเรียกได้ว่าทำเอารองเท้าแทบสึกไปหมด พอถึงวันหยุดก็ไม่ค่อยอยากทำอะไรนอกจากพักผ่อนอยู่ที่บ้าน แค่นั่งเล่น นอนเล่นแป๊บ ๆ อ้าว! หมดไป 1 วันเต็ม ๆ โดยที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย

แต่พอช่วงโควิด-19 เท่านั้นแหละ สเกวก็แทบลืมคำว่า “การเดินทาง” ไปเลย เพราะที่ออฟฟิศเขาให้พนักงานทุกคนได้ Work from Anywhere หรือทำงานที่ไหนก็ได้ ไม่ใช่แค่ Work from Home หรือทำงานที่บ้าน

มาค่ะ… สเกวจะพามาดูว่าตั้งแต่ได้ Work from Anywhere สเกวได้ทำอะไรเพิ่มมากขึ้นจากเดิมบ้าง

พอไม่ต้องเดินทางแต่ละวัน งาน VJ ก็ได้เริ่มต้น

พอไม่ต้องเดินทางในแต่ละวันแล้ว สเกวก็มีเวลาได้ทำสิ่งนึงเพิ่มขึ้นมานั่นก็คือการเป็น “VJ” (Video Jockey) นั่นเองค่ะ จะเรียกเราว่า “วีเจสเกว” ก็ได้นะคะ (ฮ่า ๆ) ปกติสเกวจะ Live ผ่าน Platform ที่มีชื่อว่า “MICO” โดยสเกวรู้จักช่องทางนี้เพราะมีรุ่นน้องที่แนะนำให้ลองใช้ เริ่มแรกเราก็ต้องกรอกใบสมัครและส่งคลิปแนะนำตัวเองที่มีความยาวประมาณ 2-3 นาทีเพื่อขอ Cast กับทางสังกัด จากนั้นก็รอประกาศผลภายใน 7 วันหลังส่งคลิป พอผ่านการคัดเลือกสเกวก็เริ่ม Live ตั้งแต่ตอนนั้นเลยค่ะ

Live ชวนคุยแบบสบาย ๆ เป็นกันเอง

ระหว่าง Live สเกวจะชวน User ที่เป็นคนดูเข้ามาพูดคุยและถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันไป บางครั้งเราก็มีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ User ได้ร่วมเล่น เช่น ถ้า User กดส่งของขวัญให้ตามที่กำหนดจะต้องกินน้ำในขวดให้หมด ซึ่งของขวัญที่ว่าเนี่ยเป็นเหมือนแต้มสะสมในบัญชีของเรานั่นเองค่ะ (User บางคนก็ใจดีส่งของขวัญมาให้ทั้งที่เราไม่ได้จัดกิจกรรมก็มีเหมือนกันค่ะ)

ใครที่อยากเป็น VJ เหมือนกับสเกว ทาง Platform นี้เขาก็ไม่จำกัดอายุเลยค่ะ ขอแค่อย่างเดียวเลยคือพูดให้เก่งเข้าไว้ ส่วนใครที่มีความสามารถพิเศษอย่างการร้องเพลง เล่นกีตาร์ เต้น เล่าเรื่องผี ก็ไปโชว์ได้เลยค่ะ หรือจะมาเป็นสายฮา เล่นมุกโบ๊ะบ๊ะก็ได้นะคะ เพราะ User ชอบคอนเทนต์ที่ตลก คลายเครียด

แต้มจาก Live กลายเป็นเงินจริง ช่องทางหารายได้เสริมที่ทำแล้วแฮปปี้

นอกจากเราจะได้ความสนุกที่ได้พูดคุยกับ User แล้ว Platform นี้ยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการหารายได้เสริมอีกด้วยค่ะ เพราะเมื่อเรา Live จนถึงสิ้นเดือนแล้วเราจะสามารถเอาของขวัญที่เป็นแต้มสะสมไปแลกเป็นเงินได้ ซึ่งระบบจะคำนวณให้เราเสร็จสรรพเลยว่าแปลงเป็นเงินไทยได้กี่บาทแล้วท้ายที่สุดเงินก็จะถูกโอนเข้ามาที่บัญชีของเรานั่นเองค่ะ

บริหารเวลาให้ดี เต็มที่ได้ทั้งงานประจำและงาน VJ

หลายคนอาจจะเริ่มสงสัยแล้วล่ะสิว่าสเกวเอาเวลาตอนไหนไป Live กันนะ?

ขอตอบเลยค่ะว่า… พอเลิกงานปุ๊บเราก็ตั้งกล้องปั๊บเลยค่ะ เพราะว่าไม่ต้องเดินทางกลับจากออฟฟิศอีกแล้วทำให้เรามีเวลามา Live ซึ่งปกติก็จะใช้เวลาตั้งแต่ประมาณหนึ่งทุ่มถึงสี่ทุ่ม (แล้วแต่วัน บางวันก็ยาวยันห้าทุ่มเลยค่ะ) ซึ่งก็จะมีเหล่า User แวะเวียนกันเข้ามาดูจนถึงช่วงดึกเลย
 

ได้รู้จักเพื่อนใหม่จากการเป็น VJ

ตั้งแต่เริ่ม Live มาจนถึงตอนนี้ก็ประมาณ 3 เดือน นอกจากจะได้รู้จักกับเหล่าพี่ ๆ น้อง ๆ User ที่เข้ามาดูแล้ว สเกวก็ได้เพื่อนใหม่ในแวดวง VJ ด้วยเหมือนกันนะ เราสนิทกันเพราะ Platform นี้มีฟีเจอร์จัดรายการ Live แบบคู่สองคนที่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการ Live เหมือนเราได้ VDO Call คุยกับเพื่อนเลยล่ะค่ะ แถมยังทำให้มี User ที่เป็นคนดูขาประจำของแต่ละห้องรู้จักเรามากขึ้นอีกด้วย

เจอคอมเมนต์แง่ลบบ้าง แต่ก็ดีลกับมันได้

ด้วยความที่มีคนเข้ามาพูดคุยกันเยอะ เวลา Live ก็อาจจะเจอคอมเมนต์แง่ลบบ้าง แต่ปกติจะไม่ค่อยมีใครซีเรียสกัน ถ้ามีมาจริง ๆ เราก็จะปล่อยข้ามไปไม่ต้องอ่านหรือไม่ก็อาจจะบล็อกออกไปเลย ถ้าเราไม่ได้บล็อก User คนนั้นไปทางแอปฯ MICO เองก็มีทีมงานที่ช่วยดูหลังบ้านในส่วนการใช้งานอยู่แล้ว ซึ่งถ้าเขาเจอว่าคนไหนไม่ค่อยโอเคเขาก็จะช่วยบล็อกให้

Work from Anywhere ทำงานที่ไหนก็ได้ ทำหลายอย่างได้ในวันเดีย

เป็นยังไงบ้างคะ ชีวิตการ Work from Anywhere ของสเกว ส่วนตัวเราว่าข้อดีของมันคือการที่เราสามารถบริหารเวลาได้อย่างลงตัว มีแรงเหลือสำหรับลุกขึ้นมาทำอะไรอื่น ๆ นอกเหนือจากงานได้อีกเยอะแยะเลย

จริง ๆ ที่เล่ามานี้เป็นแค่ส่วนนึงเท่านั้นนะคะ พอมีเวลามากขึ้นสเกวก็ยังมีอีกหนึ่งช่องทางหารายได้เสริม นั่นก็คือการขายเสื้อผ้ามือสองค่ะ มีทั้งชุดที่ติดต่อหามาและชุดของเราเองที่ยังดูดีอยู่ ซึ่งช่องทางในการขายสเกวจะเอาไปประกาศขายตามกลุ่ม Marketplace บน Facebook ค่ะ
 

 .  
 

นอกจากเป็น VJ และแม่ค้าแล้วสเกวก็ได้มาลองเป็นแม่ครัวด้วยค่ะ เราได้ลองฝึกทำอาหารกลางวันทานเอง จากเดิมที่เคยทำกับข้าวไม่เป็นพอมาถึงตอนนี้… ก็ยังทำไม่เป็นเหมือนเดิมค่ะ (ฮ่า ๆ) แต่อย่างน้อยเราก็ได้ลองทำนะคะ ถึงจะเหนื่อยสักนิดแต่รสชาติที่ออกมามันก็คุ้มค่าความเหนื่อยค่ะ

การ Work from Anywhere ทำให้สเกวได้วางแผนว่าจะทำต่ออะไรหลังเลิกงาน จากแต่ก่อนที่ขี้เกียจทำนู่นทำนี่เพราะเหนื่อยและอยากพัก พอมาตอนนี้เราได้ทำอะไรที่อยากทำแม้กระทั่งออกไปทำงานข้างนอก ไปร้านกาแฟ ไปต่างจังหวัด พอถึงวันทำงานแล้วเบื่อบ้านก็เปลี่ยนสถานที่ทำงานไปเรื่อย ๆ หาที่สงบ ๆ คุยกับลูกค้า ซึ่งมันก็ทำให้รู้สึกดีมาก ๆ เลยเพราะมันไม่ใช่แค่การนั่งในห้องสี่เหลี่ยมเหมือนแต่ก่อนทำให้เราเองรู้สึกมีพลังในการทำงาน ในทุก ๆ วัน ^^