สะท้อน K-Pop ให้เป็น Design (Ep.1) : The revolution of EXO's Logo

สะท้อน K-Pop ให้เป็น Design (Ep.1) : The revolution of EXO's Logo
07/02/19   |   11.3k


 

 

 

 

 

 

 

 

พอได้ยินคำว่า K-Pop เราเชื่อว่าหลายๆคนคงเคยได้ยินคำนี้ๆ หรือหลายๆคนเองก็อาจจะรู้จักอย่างเป็นดิบดี หรือเรียกง่ายๆว่าเป็นติ่งนั่นเอง ซึ่งถ้าถามคนที่ติดตาม K-Pop ว่าทำไมถึงติดตามศิลปินK-popเหล่านี้ ก็คงมีหลายๆคำตอบกันไป บางคนก็ชอบในตัวศิลปิน มองศิลปินเป็นไอดอลเป็นแรงบันดาลใจ บางคนก็ชอบในแนวเพลงK-pop บางคนก็ชอบดูศิลปินเต้นและก็โคฟเวอร์ตาม บางคนก็บอกว่าK-Popเป็นเหมือนที่พึ่งทางใจ ซึ่งเหตุผลทั้งหลายเหล่านี้ก็ล้วนแต่ทำให้แฟนคลับที่ชื่นชอบK-Popเอง ได้เรียนรู้อะไรจากK-Popมากมายอยู่เหมือนกัน

ตัวผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ติดตาม(จริงๆก็เรียกตัวเองว่าติ่ง)K-Pop อยู่เหมือนกัน ไม่บอกหรอกว่าวงที่เราชอบเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปที่ดังมากๆจนได้รับฉายาว่า “เกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาติ” (นี่ขนาดไม่บอกนะเนี่ย) จากตอนแรกที่เราติดตามเฉพาะวงเดียวที่เราชอบ เรากลับกลายเป็นติดตามวงอื่นๆด้วย เนื่องจากแนวเพลง และตัวศิลปินเองที่เหมือนมีอะไรดึงดูดให้เราติดอยู่กับวงการนี้ไม่ไปไหน สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากการติดตามวงการนี้ก็มีหลายอย่างมากมาย ทั้งความสุขที่ได้ดูศิลปินแสดงบนเวที ดูวาไรตี้ หรือได้ฟังเพลงที่ช่วยให้เราเข้าถึงอารมณ์ต่างๆได้แม้จะฟังไม่ออก แต่สิ่งหนึ่งที่เราคิดว่าเราได้เรียนรู้จากมันแบบคิดว่าจะไ้ด้เรียนรู้เลยก็คือเรื่อง “ศิลปะ” โดยเฉพาะการออกแบบดีไซน์ ที่บางครั้งเราก็รู้สึก “ว้าวว คนออกแบบแ_งคิดได้ไงอ่ะ”

 

มอง K-pop ให้เป็นดีไซน์

หากได้ติดตาม K-Pop ดีๆแล้ว จะพบว่าศิลปะที่K-Popสื่อสารออกมาผ่านการออกแบบหรือการดีไซน์นั้น ถือว่าดีเลยทีเดียว มองแล้วก็พบว่าเป็นงานที่คิดมาก่อน ไม่ใช่งานที่ทำออกมาแบบลวกๆ ให้ผ่านไปแน่ๆ และที่ทำให้เรารู้สึกว่ามันเจ๋งก็คือ งานดีไซน์ที่ออกมานั้นมักจะเป็นอะไรที่ที่มีการสื่อความหมายไม่ใช่งานที่ทำออกมาเพื่อความสวยงามเท่านั้น สิ่งสิ่งนี้เองทำให้คนที่เสพK-Popได้เสพศิลปะการออกแบบไปด้วยในตัว ซึ่งมีสิ่งหนึ่งที่เรารู้สึกว่ามันเจ๋งเป็นอย่างมาก และจะมาอธิบายกันในบทความนี้ก็คือ Logo ของวง EXO นั่นเอง

 

มาทำความรู้จักกับ EXO กันก่อน

EXO (อ่านว่า เอ็กซ์โซ) เป็นบอยแบรนด์ภายใต้สังกัด SM Entertainment ซึ่งวงนี้เปิดตัวมาด้วยสมาชิก 12 คน ซึ่งชื่อของวง EXO ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะจักรวาล ที่ไม่มีใครรู้จัก ชื่อว่า EXO Planet ในตอนแรก แฟนๆเรียกพวกเขาว่า “เด็กดาว” และในตอนนี้ถือว่าวงนี้เป็นวงที่ดังในเกาหลีใต้ และในแถบเอเชียเองเป็นอย่างมาก

 

The revolution of EXO’s Logo

ในปี2011 วง EXO เดบิวต์ออกมาพร้อมกับการเปิดตัวสมาชิกทั้ง12คน โดยมีโลโก้ของวงเป็นแบบนี้

ความดีงามของโลโก้อันนี้ คือมันดูมีพลังมากๆ ไม่ว่าจะวางอยู่บนแพลตฟอร์มไหนก็สามารถอยู่ได้ด้วยตัวของมันเอง และด้วยรูปร่างหกเหลี่ยมก็ทำให้ดูเข้าใจได้ว่าเป็นเหมือนดาวเคราะห์อะไรสักอย่างนึง ตัดด้วยเส้นอ่านเป็นคำว่า EXO ความเจ๋งของมันไม่ได้มีเพียงเท่านี้ แต่โลโก้อันนี้เป็นเหมือนพื้นฐานที่ทำให้สามารถต่อยอดสร้างเป็นโลโก้ในอัลบั้มอื่นๆได้ ตามคอนเซปต์ของอัลบั้มนั้นๆ

 

และในอัลบั้มต่อมา คืออัลบั้ม XOXO 1st Full Album และ XOXO 1st Full Album (Repagkage) โลโก้ของวง EXO ก็เปลี่ยนไป

โดยเปลี่ยนไปรูปร่างของหกเหลี่ยมไปเป็นวงกลม และ เป็นรูปหัวใจแทน ตามชื่ออัลบั้ม XOXO ที่มีความหมายประมาณว่า “จุ๊บๆ” ซึ่งชื่ออัลบั้มก็อ่านออกเสียงว่า เอ็กซ์โซเอ็กซ์โซ พ้องเสียงกับชื่อวงอีกด้วย

 

หลังจากนั้น EXO ก็ปล่อย Christmas Album ออกมาตอนปลายปี และโลโก้ที่ออกมาก็คล้องตามอัลบั้มจริงๆ

จะเห็นว่าโลโก้เปลี่ยนไปเป็นตามรูปแบบของเกล็ดหิมะ แต่ก็ยังคงรูปโลโก้เดิมของ EXO ไว้ โลโก้ยังคงเป็นสีดำและยังสามารถอ่านว่า EXO ได้เช่นเดิม และในปลายปี 2016 EXO ก็ได้ปล่อยอัลบั้มคริสมาสต์มาเช่นกัน ซึ่งโลโก้ของอัลบั้มก็คล้ายๆกับในปี 2013 แต่มีการเพิ่งรายละเอียดลงไปให้สีเหมือนกับหิมะมากขึ้น

 

หลังจากปลายปี 2013 ที่ EXO  ปล่อยอัลบั้มพิเศษออกมา ในปี 2014 พวกเขาก็ปล่อยMini Album โดยมีเพลง Overdose เป็นเพลงหลัก ซึ่งในอัลบั้มนี้โลโก้ที่ออกมา กลับแตกต่างจากโลโก้เดิมๆที่เคยออกแบบ

ซึ่งโลโก้ของอัลบั้มนี้ มีลักษณะคล้ายกับเป็นเขาวงกต ซึ่งถ้ามองจริงๆก็อาจจะอ่านไม่ออกว่า EXO แต่โลโก้นี้ก็ยังอยู่ในรูปร่างของหกเหลี่ยม ซึ่งเป็นเหมือนองค์ประกอบหลักของโลโก้ และยังมีแฟนคลับของวง ได้ตีความของโลโก้นี้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่ตกหลุมที่กำลังแต่ไม่สามารถหนีจากวังวนรัก (เขาวงกต) จากผู้หญิงที่เขารักได้  และโลโก้นี้ก็ได้กลายเป็นBackgroud ใน Music Video อีกด้วย

 

พอมาอัลบั้มเต็มชุดที่2 EXODUS 2nd full album ในปี 2015 โลโก้อัลบั้มก็มาแบบเรียบง่าย

ซึ่งโลโก้ในอัลบั้มนี้ใช้เป็นลายเส้นแบบเรียบง่าย และยังคงอ่านได้ว่า EXO

 

และเมื่อมาอัลบั้มเต็มชุดที่ 3 ที่ชื่อว่า EX’ACT album 3rd full album ซึ่งถือว่าเป็นอัลบั้มที่จัดเต็มมาก เพราะได้ออกเพลงหลักถึงสองเพลง (Double Title Track) ซึ่งโลโก้ที่ออกแบบมาก็มีสามแบบด้วยกัน

อันแรกคือโลโก้อัลบั้ม ซึ่งใช้รูปแบบหกเหลี่ยม และมีตัวหนังสือตามมุมเหลี่ยมต่างๆ ซึ่งอ่านได้หลายแบบ ทั้ง EXACT ซึ่งเป็นชื่ออัลบั้ม หรือ EXO 3 ซึ่งหมายถึงอัลบั้มเต็มชุดที่ 3 ของ EXO

และนี่คือโลโก้ของเพลงหลักที่ชื่อว่า Lucky one ซึ่งทำเป็นรูปของใบไม้สี่แฉกที่สื่อถึงความโชคดีตามชื่อเพลงนั่นเองและที่สำคัญโลโก้นี้ก็ยังมองดูว่าเป็นโลโก้ของ EXO

ส่วนเพลงหลักเพลงที่สองที่ชื่อว่า Monster โลโก้ก็ได้ใช้รูปกระดูกซึ่งสื่อถึงเนื้อหาภายในของเพลงได้อย่างลึกซึ้ง

 

ในปี 2017 EXO ก็ได้ออกอัลบั้มเต็มชุดที่ 4 ‘The WAR 4th Album’ และในอัลบั้มชุดนี้ก็ได้มีโลโก้ออกมาสามแบบด้วยกัน

 

ซึ่งทางแฟนคลับเองก็ได้ตีความหมายของโลโก้ออกมาหลากหลายทฤษฎี แต่หากเราได้ดู Music Video แล้ว โลโก้ที่ออกแบบมานั้นเป็นคอนเซปต์ที่นักออกแบบได้คิดไว้ดีแล้ว และอีกอย่างที่เรารู้สึกได้คือ การออกแบบที่นำใบไม้ ดอกไม้ มาออกแบบเป็นโลโก้ได้อย่างลงตัว

 

หลังจากอัลบั้มเต็มชุดที่4 EXO ก็ได้ออกอัลบั้ม Repakage ออกมา โดยมีซิงเกิ้ลที่เพิ่มขึ้นมาคือเพลง POWER ซึ่งซิงเกิ้ลนี้เองก็ได้มีโลโก้ออกมาเช่นกัน

 

ซึ่งโลโก้นี้ เป็นโลโก้ที่ใช้รูปแขนของคนกำมือ มาต่อกันเป็นโลโก้ของEXO  ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อออกมาจากเพลงได้เป็นอย่างดี

 

มาถึงอัลบั้มล่าสุดของ EXO คืออัลบั้มชุดที่5 ‘Don’t Mess up my tempo 5th Album’ และ ได้มีการ Repakage ‘Love Shot 5th Album Repakage’ ซึ่งโลโก้ที่ออกมานั้นก็คือ

    

 

ส่วนของโลโก้ที่เป็นเพลง Tempo นั้นได้ทำโลโก้เป็นเหมือนรูปไมล์ของมอเตอร์ไซต์ซึ่งเมื่อเห็นครั้งแรกก็พบว่า เจ๋งมาก ที่คนออกแบบสามารถดัดแปลงจากโลโก้ธรรมดามาเป็นโลโก้แบบนี้ได้ ซึ่งสามารถสื่อได้ถึงคอนเซปต์ของเพลงและยังสามารถสื่อถึงความเป็นวงได้อีกด้วย ส่วนของเพลง Love Shot นั้นก็ยังดัดแปลงโลโก้ให้เป็นรูปเพชรได้อย่างดี


 

จากตอนแรกที่เราได้เสพ K-Pop ก็เพื่อหวังแค่ความบันเทิงเท่านั้น แต่กลับกลายเป็นว่าเราหลงไหลไปกับมัน และทำให้เราค้นพบความน่าสนใจอะไรบางอย่างใน K-Pop และทำให้เรามองเห็นว่า K-Pop ให้อะไรมากกว่าแค่ความบันเทิง ซึ่ง K-Pop สะท้อนศิลปะออกมาให้เรา และเราก็สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้ ไว้ในBlog ครั้งต่อไป เราจะมาเขียนสิ่งที่เราได้เรียนรู้จาก K-Pop ในเรื่องอื่นๆอีก

 

เครดิต : 

 

tags : logo design kpop exo



ติดตามข่าวสารและเรื่องราวดีๆ ทาง Email