Software Engineer คืออาชีพที่ต้องทำงานกับคอมพิวเตอร์เป็นส่วนใหญ่ เพราะเนื้องานคือการพัฒนาเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ออกแบบ Database รวมถึงเขียนโค้ดต่าง ๆ ดังนั้นแค่มีคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็สามารถทำงานได้ แล้วถ้าทำงานที่ไหนก็ได้ การเข้าออฟฟิศหรือทำงานที่บ้านจะเวิร์กกับคนทำงานสายนี้มากกว่า เราไปคุยเรื่องสไตล์การทำงานกับ ‘ต๋า’ Software Engineer น้องใหม่ที่เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ THiNKNET ในช่วงที่เราปรับการทำงานเป็นรูปแบบ Work from Anywhere กัน
ชื่ออะไร ทำงานตำแหน่งอะไร และทำมานานแค่ไหนแล้ว?
ชื่อชนิสรา (ต๋า) เป็น Software Engineer ทำงานที่นี่มา 9 เดือนค่ะ
หน้าที่รับผิดชอบในตำแหน่งงานนี้ต้องทำอะไรบ้าง?
พัฒนาและปรับปรุงระบบผลิตภัณฑ์ของบริษัท ทั้ง Website และ Application แต่ว่าในช่วงนี้ทางทีมจะโฟกัสกับการทำ Website มากกว่า ซึ่งเราก็จะดูทั้งส่วนของ Front-end เรื่องการแสดงผลของฟีเจอร์ต่าง ๆ และ Back-end ในเรื่องของ Service การทำข้อมูลจาก Database ส่งไปฝั่งหน้าบ้านค่ะ
การทำงานในตำแหน่ง Software Engineer ใช้ทักษะ Hard Skills หรือ Soft Skills มากกว่ากัน
ใช้ทั้งสองอย่างเลย ในส่วนของ Hard Skills จะเป็นทักษะด้านการเขียนโค้ด เช่น หน้าบ้านใช้ React ส่วนหลังบ้านจะใช้ Node.js ส่วน Soft Skills นั้นจะเป็นทักษะด้านการสื่อสาร เพราะต้องพูดคุยและตกลงกันภายในทีม นอกจากการสื่อสารแล้ว ทักษะด้านการจัดการเวลาเองก็ค่อนข้างสำคัญ เนื่องจากเรา WFA ตลอด ถ้าไม่จัดการเวลาให้ดีก็อาจจะทำงานไม่เสร็จตามเวลาได้ Soft Skills เลยสำคัญกับการทำงานที่นี่มาก ส่วน Hard Skills ก็สำคัญเช่นกัน แต่เราสามารถไปฝึกฝนและพัฒนาในส่วนนี้เพิ่มเติมได้
ในช่วงที่เริ่มทำงานที่นี่ มีปัญหาเรื่อง Skill Gap บ้างไหม?
มีปัญหาเรื่องการสื่อสารค่ะ เพราะโดยพื้นฐานเป็นคนพูดน้อยอยู่แล้ว ทำให้ช่วงแรกของการทำงานที่นี่รู้สึกติดขัดนิดหน่อย แล้วก็ค่อนข้างกดดันตัวเองอยู่พอสมควรเลย แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นค่อนข้างเยอะ รู้สึกกล้าพูดมากขึ้น ได้เสนอความคิดเห็นของตัวเองในการประชุมแต่ละครั้งมากขึ้น
นอกจากเรื่องการสื่อสารแล้ว ในช่วงที่ผ่านมา ได้มีการพัฒนาตัวเองในเรื่องไหนอีกบ้าง เพื่อทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพดีขึ้น?
มีไปลงเรียนเพิ่มเกี่ยวกับ Programming เหมือนกัน ตอนนี้อาจจะยังไม่ค่อยเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนสักเท่าไหร่เพราะเพิ่งเริ่มเรียนได้ไม่นาน แต่คิดว่าว่าถ้าเรียนไปเรื่อย ๆ จะนำมาใช้กับการทำงานได้ไม่มากก็น้อย
ส่วนตัวเป็นคนที่มีสไตล์การทำงานเป็นยังไง
ชอบทำงานเงียบ ๆ คนเดียว ไม่ค่อยชอบอยู่กับคนเยอะ ๆ เท่าไหร่ ซึ่งการ Work from Anywhere ก็ตอบโจทย์ในส่วนนี้มาก
เมื่อได้ Work from Anywhere (WFA) ตารางเวลาชีวิตเปลี่ยนไปยังไงบ้าง สิ่งที่ชอบในการ WFA คืออะไร?
เปลี่ยนไปมากเพราะว่าไม่ต้องเผื่อเวลาเดินทางเข้าออฟฟิศ ไม่ต้องไปเจอรถติด ได้อยู่บ้านมากขึ้น มีเวลาอยู่กับตัวเองเยอะขึ้น ซึ่งก็ช่วยสร้าง Passion ได้ค่อนข้างเยอะ ได้คิดเรื่องการพัฒนาตัวเอง
การทำงานแบบ WFA ยากไหม คนในทีมมีส่วนช่วยในช่วงทดลองงานมากน้อยยังไง?
ไม่ยาก ช่วงก่อนที่จะย้ายมาที่นี่ ที่ทำงานเก่าก็มีนโยบาย Work from Home เหมือนกัน ทำให้ไม่ต้องปรับตัวในส่วนนี้มากเท่าไหร่ เราแค่ต้องมีระเบียบกับตัวเอง ต้องวางแผนบริหารจัดการเวลาทำงานของตัวเองให้ครบตามกำหนด 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ถ้าไม่จัดระเบียบให้ตัวเองก็อาจจะทำงานไม่ครบชั่วโมงได้ และทีมคอยให้คำแนะนำในช่วงทดลองงานดีค่ะ ไม่ต้องปรับตัวเยอะมาก
คิดว่าการทำงานแบบ WFA กับการเข้าออฟฟิศ มีอะไรแตกต่างกันบ้าง?
ถ้าเป็น WFA จะรู้สึกว่ามีสมาธิมากกว่าการทำงานที่ออฟฟิศเพราะได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น ส่วนการทำงานที่ออฟฟิศถึงแม้จะทำให้ไม่มีสมาธิในการทำงานบ้างในบางครั้งเพราะคนเยอะแต่ก็มีข้อดีคือได้เจอเพื่อนร่วมงานหลาย ๆ ทีม ในขณะที่ WFA จะรู้สึกเหงา ๆ หน่อยเพราะไม่ค่อยได้ออกไปไหนเท่าไหร่
ถ้ารู้สึกเหนื่อยหรือเหงาในช่วง WFA มีวิธีการเติมพลังหรือสร้าง Passion ในการทำงานให้ตัวเองยังไง?
ถ้ารู้สึกเหงาก็ใช้วิธีออกไปเที่ยวกับเพื่อนแก้เหงาค่ะ ส่วนถ้ารู้สึกเหนื่อยก็จะทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ เช่น ดูหนังหรือเล่นเกม พอได้ทำอะไรที่ชอบก็ช่วยฮีลความเหนื่อยได้เยอะเลยค่ะ ส่วนเรื่อง Passion เราต้องพยายามหาสิ่งใหม่ ๆ มาศึกษาบ่อย ๆ ส่วนตัวคิดว่าการทำแบบนี้จะทำให้เราอยากเรียนรู้มากขึ้นและเพิ่มไฟในการทำงานได้
การทำงานแบบ WFA ทำให้การติดต่อสื่อสารกับคนในทีมหรือต่างแผนกยากไหมและส่งผลต่อความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานบ้างรึเปล่า?
การติดต่อกันทาง Online อาจทำให้รู้สึกคุ้นเคยกันได้ยากกว่าการได้เจอหน้ากันจริง ๆบ้าง แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นมีปัญหาในการพูดคุย เพราะเราติดต่อกันได้ไม่ยากเลย เนื่องจากมีโปรแกรมสื่อสารที่ช่วยให้ติดต่อทุกคนได้ง่าย อย่างที่นี่ก็จะมี MS Teams และ Discord เอาไว้ติดต่อกัน ทำให้การติดต่อทั้งภายในทีมและต่างทีมไม่มีปัญหาเลย
เวลามีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างการทำงาน การที่เรา WFA ทำงานอยู่คนเดียวส่งผลต่อการทำความเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นและการแก้ไขปัญหาไหม?
ไม่ส่งผล เพราะว่าเวลาเกิดปัญหาก็สามารถทักไปถามพี่ ๆ ในทีม ให้เขาแนะนำในส่วนที่ติดปัญหาได้เลย
การ WFA ทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานแบบทีมเวิร์กยังไงบ้าง?
ได้เรียนรู้วิธีการทำงานร่วมกันทั้งกับคนในทีมและต่างทีม ซึ่งทุกคนที่นี่ก็ทำงานกันเป็นทีมเวิร์กดีอยู่แล้วค่ะ
นโยบาย WFA มีส่วนที่ช่วยอำนวยความสะดวกต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของตนเองยังไงบ้าง ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในปัจจุบันไหม?
การ WFA ตอบโจทย์การใช้ชีวิตปัจจุบันมาก ช่วยได้เยอะเลย เพราะว่าไม่ต้องเผื่อเวลาเดินทางไปที่ออฟฟิศ ไม่ต้องเจอปัญหารถติด ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายก็ประหยัดไปได้เยอะเลยค่ะ ทั้งเรื่องอาหาร แล้วก็ค่าน้ำมัน
พอได้ทำงานจริงกับที่นี่ รู้สึกยังไงบ้าง เหมือนที่เคยคิดไว้ไหม?
รู้สึกดีเพราะรู้สึกที่นี่ไม่ค่อยเคร่งเรื่องเวลาในการทำงาน แค่เราจัดการตัวเอง เก็บเวลาในการทำงานต่อสัปดาห์ให้ครบตามกำหนดก็พอแล้ว บรรยากาศการทำงานที่นี่ก็ดี ทุกคนเป็นมิตร
ถ้าจะให้นิยามการทำงานที่ THiNKNET จะนิยามว่ายังไงดี?
เป็นการทำงานที่เราสามารถจัดสรรเวลาการทำงานได้ด้วยตัวเอง
ช่วยเล่า Moment หรือประสบการณ์การทำงานที่ประทับใจให้ฟังหน่อย?
ช่วงแรก ๆ ที่เข้ามาทำงานได้พี่ในทีมช่วยแนะนำให้เยอะมาก ทั้งในเรื่องการทำงานและเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำงาน แล้วก็มีกิจกรรมเล่นเกมหลังเลิกงานที่จะชวนทุกคนในทีมมาเล่นด้วยกัน รู้สึกชอบในส่วนนี้มากเลยค่ะ
นอกจากพาร์ทการทำงาน หลังเลิกงานเราทำกิจกรรมหรือมีงานอดิเรกอะไรบ้าง การทำงานแบบ WFA มีผลอะไรบ้างไหม?
หลังเลิกงานถ้าว่าง ๆ ส่วนมากก็จะเล่นเกมอย่างเดียวเลย ซึ่งการทำงานแบบ WFA ก็มีผล เพราะว่าพอเลิกงานเราก็ไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทางกลับบ้านหรือกลับหอ ส่วนนี้ช่วยประหยัดพลังงานไปได้เยอะมาก ๆ เลย
สำหรับใครที่เป็น Introvert และรู้สึกไม่มั่นใจเรื่องการพูดคุยสื่อสารในการทำงานรูปแบบ Work from Anywhere ต๋าก็ได้มาแชร์ประสบการณ์ให้เราได้รู้กันแล้วว่าไม่ยากอย่างที่คิดเลย
ถ้าอ่านบทสัมภาษณ์แล้วรู้สึกชื่นชอบการทำงานที่ได้จัดสรรเวลาและออกแบบสไตล์การทำงานของตัวเองอย่างอิสระแบบนี้ รวมถึงอยากเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ THiNKNET ในการสร้างผลิตภัณฑ์เจ๋ง ๆ ด้วยกัน เราก็กำลังเปิดรับสมัคร Software Engineer อยู่ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดงานได้ ที่นี่ หรือถ้าไม่ไม่ใช่สายไอที เราก็กำลังเปิดรับตำแหน่งอื่นอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น Content Creator, Graphic Designer, Business Analyst และอื่น ๆ อีกมาก สามารถเข้าไปดูตำแหน่งงานที่เปิดรับทั้งหมดได้ ที่นี่ เลย