ทำความรู้จัก 'ข้าวตู' Software Engineer ผู้เต็มที่กับทั้งงานประจำและงานอดิเรก

ทำความรู้จัก 'ข้าวตู' Software Engineer ผู้เต็มที่กับทั้งงานประจำและงานอดิเรก
09/08/22   |   2.6k

ที่ผ่านมาเรามีโอกาสได้พูดคุยกับเหล่า Software Engineer จาก THiNKNET ที่ทำงานแบบ Work from Anywhere (WFA) ไปหลายคน แต่สิ่งที่ทำให้เรายังอยากคุยกับคนทำงานในตำแหน่งนี้แบบไม่รู้เบื่อก็คือการที่แต่ละคนมีไลฟ์สไตล์เฉพาะตัวที่น่าค้นหา ซึ่ง ‘ข้าวตู’ ก็เป็นอีกคนที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะนอกจากเธอจะมีงานประจำที่ต้องอาศัยความรู้และทักษะเฉพาะด้านแล้ว นอกเวลางาน เธอก็ยังแบ่งเวลาไปให้งานอดิเรกอย่างการเล่นดนตรีและการระบายสีอีกด้วย

 

แนะนำตัวสักนิดว่าชื่ออะไร ทำงานตำแหน่งอะไร และทำมานานแค่ไหนแล้ว?

ชื่อ พีตา เร่งประเสริฐ ชื่อเล่นชื่อ ข้าวตู ทำงานในตำแหน่ง Software Engineer มา 1 ปี 3 เดือนแล้ว

 

หน้าที่รับผิดชอบในตำแหน่งงานนี้ต้องทำอะไรบ้าง?

ทีมที่เราอยู่คือทีม Product Support เพราะฉะนั้นงานส่วนใหญ่ก็จะเกี่ยวกับสิ่งที่ User หรือผู้ใช้งาน JobThai แจ้งเข้ามาว่าเป็นปัญหา เช่น ไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้ หรือเจอจุดที่รู้สึกว่าใช้งานยาก ทางทีมเราก็จะเป็นคนคอยแก้ไขตรงนี้ ซึ่งเราอาจจะไม่ได้ทำงานกับผู้ใช้งาน JobThai โดยตรง แต่จะรับเรื่องมาจากทีม Customer Support ที่เขาเป็นคนพูดคุยและรับฟีดแบ็กจาก User โดยตรงมาอีกทีนึง

 

ตำแหน่งที่ทำอยู่ต้องใช้ทักษะอะไรบ้าง ทั้ง Hard Skills และ Soft Skills?

เนื่องจากงานที่ทำเป็นงาน Support โดยส่วนใหญ่ ทำให้เราได้จับโปรเจกต์ต่าง ๆ ทั้งหน้าบ้านและหลังบ้านของเว็บไซต์ JobThai และ THiNKNET Design Studio ทำให้ Hard Skills ที่เราต้องมีคือความรู้เกี่ยวกับภาษาคอมพิวเตอร์ อย่างภาษา JavaScript หรือ ภาษา PHP นั่นเอง

 

ในส่วนของ Soft Skills เราจำเป็นต้องมีทักษะในการทำงานเป็นทีมและการสื่อสาร เพราะทีม Support มีเนื้องานที่ต้องติดต่องานกับทีมอื่น ๆ ซึ่งได้รู้จักและทำงานกับเพื่อนร่วมงานต่างทีมค่อนข้างเยอะ

 

มีปัญหาเรื่อง Skill Gap บ้างไหม แล้วมีเทคนิคในการทำในสิ่งที่ไม่ถนัดเหล่านั้นยังไงบ้าง?

เราไม่ค่อยถนัดภาษาคอมพิวเตอร์แบบ PHP สักเท่าไหร่ เพราะมันมีลักษณะภาษาไม่เหมือนกับภาษาคอมพิวเตอร์ที่เราคุ้นเคย พูดง่าย ๆ เหมือนแกรมมาร์ของภาษามันไม่เหมือนกัน แต่เราเองก็จะนำเอาตรรกะความคิดมาประยุกต์ใช้เพื่อทำความเข้าใจภาษานี้

 

เรามีการพัฒนาตัวเองยังไงบ้าง เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น?

เราเป็นคนเรียนรู้ด้วยวิธี Learning by Doing หรือว่าการลงมือทำจริง แต่ในกรณีเจอปัญหาเกี่ยวกับเนื้องาน เช่น เรื่องของระบบ ซึ่งเราไม่สามารถแก้ไขได้แค่คนเดียว เราจะคุยกับคนในทีม เพื่อให้คนที่มีความรู้ในส่วนนี้เข้ามาช่วยหรือมาแชร์ประสบการณ์ที่เคยเจอมา ซึ่งมันก็ดีกว่าการเวลาที่เราต้องไปงมหาวิธีเอาเอง ได้แก้ไขปัญหาและได้เรียนรู้จากคนอื่นไปพร้อม ๆ กัน

 

เราได้อะไรจากการทำงาน และสามารถเอาไปต่อยอดให้กับตัวเองได้ยังไงบ้าง?

การทำงานทำให้เราได้เก็บประสบการณ์และพัฒนาตัวเองตลอดเวลา ยิ่งสะสมชั่วโมงการทำงานไปเรื่อย ๆ เราก็จะทำงานได้เร็วขึ้นและคล่องมากขึ้น

 

เราได้ริเริ่มโปรเจกต์หรือเสนออะไรใหม่ ๆ บ้างไหม? ลองยกตัวอย่างให้ฟังหน่อย

เรายังไม่ได้ถึงขั้นเริ่มโปรเจกต์เอง ส่วนใหญ่จะเป็นคนคอยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ  ที่ผู้ใช้งานใน JobThai เจอมามากกว่า ซึ่งเราเองก็ได้เสนอวิธีแก้ไขปัญหาใหม่ ๆ ด้วยเหมือนกันในบางครั้ง

 

ส่วนตัวเป็นคนที่มีสไตล์การทำงานเป็นยังไง?

ถ้าเป็นงานด่วนหรืองานที่ต้องใช้ความคิดเราจะชอบการทำงานเงียบ ๆ คนเดียว แต่ถ้าเป็นงานที่ไม่ได้ด่วนมากมาย การได้เปลี่ยนไปทำงานแบบบรรยากาศในออฟฟิศก็สนุกดีค่ะ

 

เมื่อได้ทำงาน WFA ตารางเวลาชีวิตเปลี่ยนไปยังไงบ้าง?

เปลี่ยนเยอะนะ เมื่อก่อนอยู่หอที่คนเดียวที่กรุงเทพฯ ทุกวันต้องอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกจากห้องไปทำงาน แต่พอมาทำงานแบบ WFA ที่สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ เราจะนั่งทำงานอยู่บ้านที่จังหวัดปราจีนบุรีเป็นหลัก ตอนนี้เราก็ได้อยู่กับครอบครัวและได้ใช้ช่วงเวลาตอนเช้าก่อนที่จะเข้างานไปดูแลคุณยายด้วย

 

คิดว่าการ WFA มีส่วนช่วยสร้าง Passion ในการทำงานให้เรายังไงบ้าง?

ส่วนหนึ่งเราได้เวลาจากการเดินทางไปทำงานกลับคืนมา ทำให้บางครั้งเราจะตื่นสายกว่าเดิมหน่อยแต่ก็ยังไม่เลยเวลาเริ่มงาน เราสามารถไปทำงานในสถานที่ต่าง ๆ ได้ พอถึงวันเสาร์อาทิตย์เราก็ได้ออกไปเที่ยวด้วย ทั้งหมดนี้ทำให้เราเองได้ Passion จากการใช้ชีวิต ซึ่งก็ช่วยให้เราทำงานอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

 

จากเดิมที่เคยทำงานที่ออฟฟิศมา พอเปลี่ยนมาทำงานแบบ WFA แล้วมันมีความท้าทายยังไงบ้าง?

อาจจะมีหงุดหงิดนิดหน่อยในตอนแรก ๆ กับเรื่องการ Setting ระบบบางอย่างที่ไม่สะดวกเหมือนที่ทำในออฟฟิศ แต่พอปรับตัวได้รู้สึกว่าตัวเองมี Work-Life Balance มากขึ้น ส่วนหนึ่งก็เพราะเราตัดเวลาเดินทางไปทำงานออกไปนี่แหละ

 

การทำงานที่บ้านทำให้มีสมาธิในการทำงานมากขึ้นรึเปล่า แล้วได้งานจริงไหม?

ส่วนตัวคิดว่าเรามีสมาธิมากขึ้น เพราะไม่มีสิ่งอื่นมาดึงความสนใจจนเราหลุดโฟกัสจากงาน

 

ช่วงแรก ๆ ที่เราต้องเข้ามาทำงาน บรรยากาศในทีมเป็นยังไงบ้าง?

ช่วงแรกที่เข้ามาทำงานในทีมอาจจะมีเกร็ง ๆ อยู่บ้าง เนื่องจากยังไม่ค่อยสนิท ไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่ แต่คนในทีมก็คอยพูดคุยให้คำปรึกษาอยู่เรื่อย ๆ เลยลดความเกร็งไปได้เยอะและใช้เวลาปรับตัวไม่นาน

 

เมื่อทำงานแบบ WFA แล้ว เราเจออุปสรรคบ้างไหมในเวลาที่ต้องทำงานกับคนอื่น ๆ

เราไม่เจออุปสรรคเวลาที่ทำงานกับคนในทีม ถึงเราจะนั่งทำงานที่บ้านคนเดียวแต่ด้วยความที่ทีมเราทำงานด้วยกันจนสนิทและคุ้นเคยกันอยู่แล้ว เวลามีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างการทำงาน เราก็จะมีการอัปเดตงานกับคนในทีมผ่านทางออนไลน์กันตลอด แต่ถ้าเป็นการทำงานร่วมกับต่างทีม มันก็อาจจะมีอุปสรรคเล็กน้อยตรงที่เรายังไม่รู้จักกันและไม่เคยเจอกันมาก่อน

 

การ WFA ทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานแบบทีมเวิร์กยังไงบ้าง?

ถึงเราไม่ได้เจอตัวกัน เราก็ยังสามารถทำงานให้มีประสิทธิภาพและดำเนินต่อไปได้ถ้าเราทุกคนพูดคุยสื่อสารกัน อย่างทีมเราเองก็มีการพูดคุยกันอยู่เรื่อย ๆ ใน Daily Meeting ทุกเช้าก่อนแยกย้ายกันไปทำงาน เราเองก็จะไม่รู้สึกว่าเราอยู่ห่างกันขนาดนั้น นอกเหนือจาก Meeting ตอนเช้าแล้ว บางทีถ้ามีเนื้องานที่ต้องพูดคุยกัน ก็จะใช้วิธีคอลคุยกับเพื่อนร่วมงานในทีม ซึ่งบางทีก็คุยกันทั้งวัน ช่วงที่คอลบางทีก็อาจจะมีอัปเดตชีวิตกันบ้างเล็กน้อยก็ทำให้เราได้ทำความรู้จักกันในมุมอื่น ๆ นอกจากงาน

 

นโยบาย WFA มีผลต่อการดำเนินชีวิตยังไงบ้าง?

ถ้าเป็นด้านสุขภาพก็อาจจะไม่ค่อยดีนัก เพราะพอไม่ได้เดินทางก็ไม่ค่อยได้ลุกเดินไปไหนเท่าไหร่ ด้านค่าใช้จ่ายก็คือประหยัดไปได้ค่อนข้างมาก ทั้งค่าเดินทาง ค่าเช่าบ้าน แต่ก็จะมีค่าไฟที่มากขึ้นมาแทน ส่วนด้านคุณภาพชีวิตตอนนี้เรามีความสุขดีมากกกกกกก ดีจนเพื่อนที่ต้องไปทำงานที่ออฟฟิศยังอิจฉา

 

เรารู้สึกยังไงบ้างพอได้ทำงานที่นี่ มีโมเมนต์หรือประสบการณ์การทำงานที่ประทับใจที่อยากแชร์ให้ฟังไหม?

คนที่นี่ใจดีมาก เวลาขอความช่วยเหลือไปเขาพร้อมช่วยเราทุกเมื่อ ยกตัวอย่างตอนที่เพิ่งเข้ามาทำงานแรก ๆ แล้วเจอปัญหาเกี่ยวกับเนื้องาน ซึ่งเราใช้เวลาแก้ปัญหานั้นนานแทบจะทั้งวัน เราเลยบอกพี่หัวหน้าว่าเราติดตรงไหน พี่เขาก็ตามคนในทีมให้มาช่วย ซึ่งพี่ในทีมคนนั้นเขาก็มีงานของเขา แต่เขาก็หยุดงานในตรงนั้นมาช่วยดูให้เรา แล้วพอยังดูเหมือนจะแก้ไขไม่ได้ พี่หัวหน้าก็ไปตามคนอื่น ๆ มาช่วยอีกจนกว่าจะแก้ปัญหาตรงนี้ให้เราได้ ซึ่งมันก็เป็นความประทับใจในความใส่ใจ เพราะไม่คิดว่าเขาจะเบรกงานมาดูให้เราขนาดนี้

 

ถ้าจะให้นิยามการทำงานที่ THiNKNET จะนิยามว่ายังไงดี?

Work-Life Balance ดี เพราะเราได้ทำงาน แต่ก็ได้ใช้ชีวิตด้วย

 

หลังเลิกงานเราทำกิจกรรมหรือมีงานอดิเรกอะไรบ้างไหม?

ตอนเย็นหลังเลิกงานเราจะไม่ค่อยได้ออกไปไหน แต่ก็ได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ อย่างการเล่นกีตาร์ ซึ่งก็เริ่มมาจากตอนที่เราทำงานที่บ้านแล้วช่วงนั้นพ่อเขาเห็นว่าหลังเลิกงานเราดูเหมือนจะว่างเกินไปรึเปล่า ก็เลยให้หางานอดิเรกทำสักอย่าง ซึ่งที่บ้านก็มีกีตาร์อยู่แล้ว พ่อก็เลยบอกว่า “งั้นก็หัดเล่นกีตาร์ซะเลย” แล้วมันก็เลยเริ่มมาตั้งแต่ตอนนั้นมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเราก็จะพยายามเล่นต่อเนื่องทุกวัน

 

 

จริง ๆ นอกจากเราแล้ว พ่อกับน้องชายเราก็เล่นกีต้าร์ด้วยเหมือนกัน บางทีก็มีมานั่งเล่นด้วยกัน แต่เราจะเป็นคนเดียวในบ้านที่เล่นแบบ Fingerstyle (ซึ่งเราฝึกเองจาก YouTube) ส่วนคุณพ่อกับน้องเขาชายจะเล่นเป็นแบบ Chords

 

 

นอกจากเล่นกีตาร์กับคนที่บ้าน เราก็มีงานอดิเรกอีกอย่างคือการระบายสีตามตัวเลข ซึ่งไอเดียมันก็เริ่มมาจากตอนโควิดที่เราอยู่บ้าน เราก็มีความคิดอยากตกแต่งบ้าน เพราะมองไปแล้วก็รู้สึกว่า “กำแพงบ้านเรานี่มันดูว่างจังเลย เราจะหาอะไรมาติดกำแพงหน่อยดีไหม” แต่ถ้าจะให้ซื้อรูปภาพปกติมาติดผนังมันก็อาจจะดูไม่ค่อยมีอะไร เลยเลือกเป็นชิ้นงานระบายสีที่เราทำเอง เพราะเรารู้สึกว่าสิ่งนี้มันก็เป็นงานศิลปะอย่างนึง มันเป็นชิ้นงานที่เราใช้ความตั้งใจแล้วก็ความอดทน ถึงจะทำแล้วอาจจะดูเบี้ยวไปบ้างเราก็ยังภูมิใจว่าอย่างน้อยมันก็คืองานที่ฉันทำเองนะ ซึ่งทุกวันนี้ที่บ้านก็จะมีภาพแบบนี้แขวนอยู่บนผนังที่บ้านด้วย

 

 

ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเต็มที่กับทั้งพาร์ทการทำงานและงานอดิเรกได้แบบนี้ ซึ่ง Work-Life Balance ที่ดีก็เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เราสามารถพัฒนาตัวเองไปได้แบบควบคู่ทั้งสองทาง โดยใครที่สนใจอยากทำงานในสาย Software Engineer หรืองานในสายอื่น ๆ การทำงานที่ THiNKNET ก็เป็นอีกหนึ่งคำตอบของคนที่มีไลฟ์สไตล์ในฝันและอยากจะเต็มที่กับเรื่องที่ตัวเองชอบควบคู่กับเรื่องงาน

tags : thinknet work from home wfh work from anywhere hybrid working software engineer ทำงานที่ไหนก็ได้



ติดตามข่าวสารและเรื่องราวดีๆ ทาง Email