นักทำแผนที่หลายสมัยดิ้นรนกับการหาวิธีสร้างแผนที่โลกซึ่งสมจริงมากที่สุด ภายใต้ข้อจำกัดของการถ่ายทอดรายละเอียดบนพื้นผิวโลกทรงกลมสู่แนวราบ การได้มาซึ่งสัดส่วนที่สมบูรณ์คือโจทย์อันท้าทาย ขณะที่นักทำแผนที่หลายคนครุ่นคิดถึงรูปทรงกลมในหัว แต่ชายชื่อ "Richard Buckminster Fuller" มองต่างออกไป
"แล้วถ้าโลกไม่ต้องกลมเสมอไปล่ะ?"
วันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 1943 นิตยสาร LIFE ได้ตีพิมพ์ผลงานของ Richard Buckminster Fuller สถาปนิกชื่อดังชาวอเมริกัน ผู้นำเสนอแผนที่โลกรูปร่างแปลกตา ซึ่งมีลักษณะของรูปเรขาคณิตหลายชิ้นเรียงต่อกัน ในบทความชื่อ 'Buckminster Fuller's Dymaxion World' แผนที่ดีไซน์ใหม่นี้ชื่อ Dymaxion เช่นเดียวกันกับสิ่งประดิษฐ์ล้ำยุคอีกหลายอย่างของเขา และขณะเดียวกันเส้นโครงแผนที่นี้ก็ล้ำไปหลายสมัย เพราะโลกของฟุลเลอร์ไม่ใช่ทรงกลม! แต่เป็นรูปทรง Cuboctahedron หรือทรงหลายหน้า ที่เมื่อคลี่ออกในแนวราบจะได้ภาพของโลกสองมิติซึ่งมีผืนน้ำและแผ่นดินเดียว ต่างกับแผนที่โลกในภาพจำของคนทั่วไป จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง
การปรากฏตัวครั้งแรกของ Dymaxion Projection บนนิตยสาร LIFE
นอกจากรูปลักษณ์สะดุดตาแล้ว คุณสมบัติอันโดดเด่นไม่แพ้กันของแผนที่แบบไดแมกเซียนคือการรักษาสัดส่วนพื้นที่และรูปร่างของแต่ละทวีปไว้ได้อย่างน่าประทับใจ แต่ในทางกลับกันความซับซ้อนของโครงสร้างนั้นก็เปลี่ยนหน้าตาของแผนที่โลกที่เรารู้จักไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อการเรียงตัวของทวีปถูกตีความใหม่ตามโครงสร้างเรขาคณิตทำให้สามารถคลี่ออกได้หลายมุม แต่ในทางกลับกันก็ทำให้ไม่สามารถระบุทิศได้ จึงไม่มีทิศเหนือ ใต้ ออก ตก อย่างที่เราคุ้นเคย ฟุลเลอร์เคยอธิบายว่าเขามองโลกเป็นเพียงดาวที่อยู่ในจักรวาล และจักรวาลก็ไม่มีทิศ!